บทที่3การออกแบบสารสนเทศในเว็บเพจ
บทที่ 3
วัตถุประสงค์
1.สามารถออกแบบสารสนเทศในเว็บเพจได้
2.สามารถบอกโครงสร้างชนิดต่างๆของสารสนเทศได้
3.1 การออกแบบโครงสร้างเว็บไซต์
1. ระดับหน้าโฮมเพจ (Home Splash Pag)
⬛
🔺
🔵
⬛
1. โครงสร้างเป็นแนวเส้น (linear design) เมื่อต้องการให้มีการนำเสนอข้อมูลจากส่วนที่หนึ่งไปส่วนที่ 2 และส่วนที่ 3 ตามลำดับโดยแต่ละส่วนก็จะมีบทแต่ละบทเรียงลำดับกันไปพร้อมรายละเอียดของข้อมูลในบทนั้นๆ
รูปที่ 1.โครงสร้างเป็นแนวเส้น (linear design)
รูปที่ 2. โครงสร้างเป็นลำดับชั้น (hierarchical structure)
3. โครงสร้างปิรามิด (pyramidal structure) จัดวางแหล่งข้อมูลระดับที่ 3 ไว้ในระดับเดียวกันเพื่อใช้งานโครงสร้างลักษณะนี้มีความเหมาะสมเมื่อเว็บไซต์ในทุกส่วนใช้เสียงภาพนิ่งภาพเคลื่อนไหวภาพวีดิทัศน์และปฏิสัมพันธ์ร่วมกัน
รูปที่ 3. โครงสร้างปิรามิด (pyramidal structure)
4.โครงสร้างเป็นขั้ว (polar structure) เมื่อมีการจัดแหล่งข้อมูลที่อยู่ในระดับที่ 3 ให้พร้อมใช้งานได้โดยทั่วไปจากระดับที่ 2 และเชื่อมโยงกับหัวข้อในระดับที่ 2 ที่เกี่ยวข้องโดยตรง
รูปที่4.โครงสร้างเป็นขั้ว (polar structure)
3.2 การออกแบบเว็บเพจ
คำแนะนำตามแบบของ Yale Style Guide (Lynch & Horton, 1999) นำมาประยุกต์ได้ว่าเนื้อหาในเว็บเพจควรมีลักษณะสำคัญในประเด็นต่อไปนี้คือ
1. มีความคงเส้นคงวาการออกแบบเว็บเพจแต่ละหน้าจะต้องให้มีความคงเส้นคงวา (Design Consistency)ในประการต่างๆต่อไปนี้
-เป็นเว็บไซต์ที่มีการวางแผนอย่างมีตรรกะ
-มีการวางรูปแบบเว็บเพจในแต่ละหน้าอย่างคงเส้นคงวาและมีตรรกะ
-มีการวางจุดเชื่อมโยงเว็บเพจในแต่ละหน้าให้มีความคงเส้นคงวา
-มีการใช้ภาพกราฟิกในแต่ละหน้าของเว็บเพจให้คงเส้นคงวา
-มีการใช้ลักษณะตัวอักษรหัวข้อหลักและหัวข้อย่อยในเว็บเพจแต่ละหน้าอย่างคงเส้นคงวา
2. มีเส้นกำกับทางเดินและความเร็วที่เหมาะสมทำให้ผู้ใช้สามารถท่องเว็บด้วยความสะดวกไม่เกิดความสับสนการสร้างเส้นทางให้ง่ายต่อผู้ใช้ควรดำเนินการดังต่อไปนี้
-รักษาความคงเส้นคงวา
- สร้างสารบัญของเนื้อหาสาระไว้หน้าแรก
-วางการเชื่อมโยงกับโฮมเพจไว้ทุกหน้า
-ตรวจดูว่าจุดเชื่อมโยงทุกจุดทำงาน
-วางจุดเชื่อมโยงที่ส่วนบนและส่วนล่างของหน้า
3. มีการจัดรูปแบบการพิมพ์ที่เหมาะสม(Typography)เลือกลักษณะของตัวอักษรและจัดแถววางแนวของอักษรในแต่ละหน้าของเว็บเพจโดยมีข้อควรพิจารณาดังนี้
-ขนาดของตัวอักษรมีความคงเส้นคงวา
-ไม่ควรใช้ตัวอักษรเกินกว่า 2 รูปแบบในภาวะปกติ
-ไม่เจตนาเน้นความจนเกินควร
-จัดข้อความให้อยู่ในรูปแบบที่อ่านง่าย
-กำหนดช่องว่างหรือช่องไฟให้เหมาะสม
การออกแบบเว็บเพจรายวิชา (Web Course Design) เพื่อให้เป็นเว็บที่ใช้เป็นสื่อกลางระหว่างผู้สอนและผู้เรียน ทั้งสารสนเทศที่เป็นประโยชน์ต่อผู้เรียนการติดต่อสื่อสารการทำงานและส่งงานที่มอบหมายและการติดตามการเรียนการสอนมีเกณฑ์ที่ควรปฏิบัติในการออกแบบโฮมเพจหรือเว็บเพจหน้าแรกดังต่อไปนี้
-แสดงโลโก้ของสถาบัน
-อธิบายสาระสังเขปของวิชาที่เว็บไซต์นี้ต้องการสื่อในลักษณะเป็นข้อความโดยย่อ
-แสดงให้เห็นถึงโครงสร้างของเนื้อหาสาระอย่างชัดเจนในลักษณะคล้ายสารบัญของเว็บไซต์นี้
-กำหนดความสัมพันธ์ของหัวข้อระดับที่ 1 กับหัวข้อย่อยโดยระดับที่เป็นส่วนหรือตอนจะนำผู้ใช้ไปยังหัวข้อหลักโดยการคลิกกลุ่มหรือบริเวณที่กำหนดให้คลิกหรือคลิ๊กจากรายการคำที่เชื่อมโยง
-จัดให้มีส่วนที่ผู้ใช้จะติดต่อหรือแสดงความคิดเห็นได้
3.3 การออกแบบเชื่อมโยงเว็บ
แบ่งออกเป็น 2 ลักษณะดังนี้
1. การเชื่อมโยงภายในเว็บไซต์เป็นการเชื่อมโยงจากบทหนึ่งไปอีกบทหนึ่งของเว็บไซต์นั้นอาจเป็นการเชื่อมโยงไปยังข้อความหรือรูปภาพเพื่อเพิ่มเติมความเข้าใจครั้งนี้คำหรือภาพที่เชื่อมโยงไปยังสารสนเทศอื่นหรือไฮเปอร์ลิงก์เช่นพลิกคำว่านกยูงแล้วมองเห็นภาพนกยูงที่คำว่าประเพณีลอยกระทงมองเห็นภาพวีดีทัศน์การลอยกระทง ได้ยินเสียงเพลงลอยกระทงเป็นต้นสิ่งสำคัญในการสร้างการเชื่อมโยงภายในเว็บไซต์ไม่ควรสร้างให้มีการเชื่อมโยงมากเกินไปจนทำให้มีจุดประสงค์ที่ไม่ชัดเจน
2. การเชื่อมโยงภายนอกเว็บไซต์ควรจัดให้มีความยืดหยุ่นในการเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ภายนอกทั้งนี้การเชื่อมโยงไปยังข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างไม่มีข้อจำกัดเป็นการจัดทำเว็บไซต์ที่จูงใจให้มีผู้มาเยี่ยมชมแต่มีสิ่งที่ต้องระมัดระวังดังต่อไปนี้
-เว็บเพจที่เชื่อมไปนั้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงเช่นหมดอายุหรือกลุ่มไปแล้วหรือมีการปรับปรุงใหม่เป็นต้น
-แหล่งข้อมูลที่เคยอยู่ในเว็บไซต์นั้นได้ย้ายหรือปรับปรุงเป็นเรื่องใหม่
-ถ้าไม่ได้มีการตรวจทานการเชื่อมโยงอาจทำให้ผู้มาใช้เว็บนั้นงงๆได้
-ไม่ควรเชื่อมโยงไปยังเว็บเพจที่มีภาพกราฟฟิกขนาดใหญ่โดยไม่มีการเตือนให้ผู้ใช้ทราบว่าข้อมูลจะปรากฏช้ามากถึงแม้ว่าผู้ใช้สามารถหยุดการปรากฏของเว็บไซต์นั้นได้แต่ก็ทำให้ผู้ใช้เสียอารมณ์ได้เช่นกัน
3.4 การใช้องค์ประกอบมัลติมีเดียในเว็บเพจ
1. การใช้ข้อความไม่ควรบรรจุข้อความเต็มหน้าจอเพราะทำให้ยากต่อการอ่านทำให้รู้สึกน่าเบื่อและลดความอยากเรียนรู้ลงได้
2. การใช้เส้นขอบพื้นหลังและสีแนวทางปฏิบัติในการใช้สีขอบพื้นหลังและสีตัวอักษรมีดังนี้
หลีกเลี่ยงการใช้สีโทนเดียว กันของขอบสีพื้นหลังและสีตัวหนังสือ
ภาพที่ 3.9 จัดข้อความให้อ่านง่ายไม่แออัด
3. การใช้ภาพกราฟิก
ในภาวะปกติไม่ควรต้องใช้เวลาในการรอภาพปรากฎนานกว่า 10 วินาที
ใช้ภาพกราฟิกเพื่อเป็นส่วนนำทางผู้อ่านไปยังข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
ใช้ภาพกราฟิกเพื่อทำให้หัวข้อหลักน่าสนใจและสื่อความหมาย
ใช้ภาพกราฟิกเพื่อทำให้เว็บหน้านั้นเหมาะกับเป้าประสงค์ของเว็บเพจนั้น
4. การใช้ภาพเคลื่อนไหว
แสดงความต่อเนื่องของภาพที่เปลี่ยนแปลงไป
บ่งบอกขนาดและมิติในการเปลี่ยน
แสดงความหลากหลาย
ภาพที่ 3.10 ภาพเคลื่อนไหว
5. การใช้ภาพวีดิทัศน์
การใช้ภาพวีดิทัศน์มีข้อดีและข้อเหมาะสมในกรณีต่อไปนี้
เมื่อต้องการให้มีการนำเสนอในลักษณะของรายการทีวีภาพยนตร์
เมื่อต้องการให้ผู้ชายประทับใจในบุคลิกภาพของผู้พูดและรับประสบการณ์เพิ่มขึ้น
6. การใช้เสียง
ประโยชน์หลักของการใช้ข้อมูลที่เป็นเสียงมีดังนี้
ช่องของการสื่อด้วยเสียงแยกออกจากการแสดงผลในลักษณะอื่นทำให้ไม่กระทบต่อข้อมูลบนหน้าจอ
เสียงพูดใช้เสริมการช่วยให้คำแนะนำ
เสียงผู้ใช้แทนภาพวีดิทัศน์เพื่อช่วยให้จินตนาการถึงบุคลิกลักษณะของผู้พูด
3.5 การเตรียมแฟ้มข้อมูลเพื่อการใช้สร้างเว็บเพจ
1. แฟ้มข้อมูลเอกสาร
2. แฟ้มรูปภาพ
3. แฟ้มภาพ
เคลื่อนไหว .
4. แฟ้มเสียง
5. แฟ้มภาพยนตร์และวีดิทัศน์
6. แฟ้มสไลด์อิเล็กทรอนิกส์
7. แฟ้มหนังสืออิเล็กทรอนิกส์
8. แฟ้มมัลติมีเดียปฏิสัมพันธ์
บรรณานุกรม
4.https://goo.gl/images/LHp9ne
5.https://goo.gl/images/Zkvpjr
6.บุปผชาติ ทัฬหิกรณ์.
เทคโนโลยีสารสนเทศทางวิทยาศาสตร์ศึกษา/ บุปผชาติ ทัฬหิกรณ์-- กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร,์ 2546.
5.https://goo.gl/images/Zkvpjr
6.บุปผชาติ ทัฬหิกรณ์.
เทคโนโลยีสารสนเทศทางวิทยาศาสตร์ศึกษา/ บุปผชาติ ทัฬหิกรณ์-- กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร,์ 2546.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น